การเลือกหญ้าจะว่าซับซ้อนก็ใช่ จะว่าง่ายก็ไม่ผิด มันมีไม่กี่เรื่องหรอกที่คุณต้องให้ความสนใจก่อนจะตัดสินใจว่าหญ้าแบบไหนที่คุณจะซื้อ และหนึ่งในประเด็นหลักๆที่เราต้องคำนึงถึงก็คือพื้นหลัง จุดที่เรียกได้ว่าหญ้าจะทนไม่ทนก็ดูกันที่ตรงนี้แหล่ะ โดยมากแล้วเราควรคาดหวังให้พื้นหลังของหญ้าต้องมีความหนาและแข็งแรง ซึ่งโดยมาแล้วในหญ้าความยาว 10มิล ซึ่งเป็นหญ้าที่ใช้ในงานที่เรียกว่าชั่วคราว ใช้ระยะสั้นก็มักจะทำพื้นหลังแค่ชั้นเดียว (Single Layer) โดยจะใช้แค่ PP (Polypropylene) และเคลือบด้วย SBR Latex อีกหนึ่งชั้นซึ่งมีทั้งเคลือบด้วยเครื่องจักร หรือกระทั่งในงานลดต้นทุนบางที่ก็ใช้เป็นเคลือบมือแทนก็มี มาถึงรุ่นหญ้าที่มีสเปคการใช้งานที่ยาวขึ้นมาหน่อยอย่างหญ้าที่มีขนาดความสูงของใบหญ้าตั้งแต่ 20มิล ขึ้นไป โดยสามารถแบ่งได้เป็นสองประเภทคือ เพิ่ม Non Woven เข้าไปก่อนเคลือบด้วย SBR Latex อีกชั้น ซึ่งมีความคงทนที่ค่อนข้างต่ำและฉีกขาดง่าย หรือถ้าให้เราแนะนำคือควรเลือกซื้อเป็นรุ่นหญ้าเทียมที่ใช้เป็น Net Clothing เคลือบด้วย SBR Latex แทน เนื่องจากคงทนกับแรงฉีกขาดมากกว่า (วิธีดูคือมีวัสดุเป็นลักษณะที่เป็นตาข่ายอยู่ด้านหลัง) ซึ่งเป็นสเปคที่ถือว่าดีแล้วสำหรับหญ้าตกแต่ง แต่ถ้าเป็นสนามบอลอาจต้องใช้สเปคที่แตกต่างออกไปอีก ซึ่งเราจะมาพูดถึงกันในวันหลัง สรุปว่าโดยมาตรฐานแล้วพื้นหลังที่ดีและได้มาตรฐานจึงควรจะอยู่ที่ประมาณ2ชั้น ซึ่งสามารถสังเกตุได้ทั้งจากกและ การพลิกดูด้านหลังก็ได้ ยิ่งคุณเห็นเส้นหญ้าหลุดออกมาเยอะเท่าไหร่ก็แปลว่าเคลือบพื้นหลังมาน้อยเท่านั้น บางที่ที่เราเคยเจอมาบอบบางขนาดที่แค่ใช้มือฉีกก็ขาด ในเคสที่คุณคิดว่าจะใช้หญ้าแบบใช้แล้วทิ้ง นี่อาจไม่ใช่ปัญหาแต่ถ้าแพลนของคุณคือการปูในบ้าน ระยะยาวคุณควรลงทุนกับมัน เพราะถ้าซื้อมาแล้วพังไวแปลว่าเดี๋ยวคุณได้เสียเงินเพื่อซื้อหญ้าใหม่แน่นอน แล้วพบกันใหม่ในบทความหน้า

ผ่านไปแล้วกับ เรื่องของพื้นหลังหญ้าเทียม
เราหวังว่าบทความของเราจะเป็นประโยชน์ต่อการตัดสินใจเลือกหญ้เทียมของคุณบ้างไม่มากก็น้อย
ขอให้คุณมีความสุขกับการเลือกหญ้าเทียมนะคะ สวัสดีค่ะ

สนใจสินค้าหญ้าเทียม รับติดตั้งครบวงจรได้ที่ www.grassthai.com

Line ID: @grassthai / โทร.081-5591469

ถ้าให้พูดถึงความสวยงามของหญ้าเทียมสิ่งแรกๆที่เราคิดถึงกันก็คงเป็นเรื่องของสีสันของใบหญ้า หรือแม้กระทั่งความหนานุ่มเองก็มีผลต่อความสวยงามเช่นกัน แต่ความสวยงามที่สำคัญกว่านั้นคือความสวยงามจากความแข็งแรง คิดง่ายๆนะว่าถ้าความสวยงามที่คุณประทับใจและอยากนำมาเพิ่มความสวยงามให้บ้าน หรือร้านค้าของคุณมันมีอายุสั้นเหลือเกิน นั่นแหล่ะคือสิ่งที่เราพยามจะบอก
หลายคนอาจเคยได้ยินเรื่องของสาร UV ในหญ้าเทียมและก็คงสงสัยว่ามันสำคัญแค่ไหน เราบอกเลยว่ามันสำคัญนะเพราะสารตัวนี้นี่แหล่ะที่จะช่วยให้ความสวยงามของหญ้าเทียมอยู่คงทน หลายที่อาจเคลมว่าหญ้าของเราใส่สารตัวนี้และที่อื่นไม่ใส่ คือเอาจริงๆมันใส่ทุกที่แหล่ะ เพียงแต่ใส่มากใส่น้อยแค่ไหนเท่านั้นเอง และวันนี้เราจะมาทำความรู้จักกับไอ้เจ้าสารป้องกัน UV ตัวนี้กัน

ไม่ว่าจะ UV Protection หรือบางที่ก็อาจเรียกว่า UV Stabilizer หรือไม่ว่าจะเป็นชื่ออะไรแต่สิ่งที่คุณต้องรู้คือมันคือสารประเภทเดียวกันส่งผลเหมือนกันคือช่วยยืดอายุหญ้า ซึ่งถ้าหญ้าของคุณโดนปูไว้ในสวนกลางแดด หรือพื้นที่ที่ต้องเจอแดดตลอดเวลาแล้ว สารตัวนี้จำเป็นมาก เพราะ

1. มันช่วยรักษาความสดใสของใบหญ้าให้ไม่ซีดจางเร็วกว่าที่ควร

2. มันช่วยปกป้องหญ้าของเราจากการกรอบและแตก

เนื่องจากการตากแดดเป็นเวลานาน แน่นอนว่าเรื่องนี้คงตามมาด้วยคำถามที่ว่า แล้วเราจะรู้ได้ยังไงว่าหญ้าที่เรากำลังจะซื้อผสมสารตัวนี้รึเปล่า
เอาจริงๆนะ ไม่รู้หรอกมันเป็นเรื่องที่พูดได้แต่พิสูจน์ยาก แต่อย่างที่บอกคือ เราเชื่อว่าหญ้าเทียมในตลาดส่วนใหญ่ที่ขายอยู่ทุกวันนี้มีส่วนผสมของสาร UV Protection ทั้งนั้นแหล่ะ จะมากหรือน้อยเท่านั้นเองสุดท้ายคุณอาจต้องเริ่มจากการเลือกแบนรด์หญ้าที่พร้อมจะให้ความช่วยเหลือ พร้อมให้คำแนะนำในการแก้ปัญหากับคุณ เพราะเมื่อเกิดปัญหาขึ้นมาอย่างน้อยถ้ามีคำตอบรวมไปถึงวิธีการที่คุณสามารถแก้ไขได้ด้วยตัวเองมาก็น่าจะทำให้ใจชื้นได้อีกมาก แล้วพบกันใหม่ในบทความหน้า

ผ่านไปแล้วกับ บทความ สิ่งที่ทำให้หญ้าเทียมสวยงานมและคงทน
เราหวังว่าบทความของเราจะเป็นประโยชน์ต่อการตัดสินใจเลือกหญ้เทียมของคุณบ้างไม่มากก็น้อย
ขอให้คุณมีความสุขกับการเลือกหญ้าเทียมนะคะ สวัสดีค่ะ

สนใจสินค้าหญ้าเทียม รับติดตั้งครบวงจรได้ที่ www.grassthai.com

Line ID: @grassthai / โทร.081-5591469

ว่าด้วยเรื่องของกาวหญ้าเทียม GrassyTurf

หลักการง่ายๆของหญ้าเทียมที่ทุกคนควรรู้ไว้ก่อนคือ มันเป็นวัสดุที่ใช้ติดตั้งบนพื้นเรียบได้ทุกชนิด ไม่ว่าจะพื้นไม้ พื้นปูน พื้นหินคลุก หินเกล็ด หรืออะไรก็แล้วแต่ที่แข็งเรียบ และไม่ยุบตัว ไม่เละเวลาโดนน้ำ โดยที่หลังจากปูไปแล้วขั้นตอนที่ทำให้เหวอกันมากเป็นอันดับต้นๆคือการทากาว คำถามที่ได้เจอบ่อยๆคือ ต้องใช้กาวอะไร?, ต้องผสมยังไง?, ผสมทั้งหมดแล้วเก็บไว้ใช้คราวหน้าได้มั้ย?, ต้องทาเต็มผืนมั้ย? วันนี้ Grassy Turf  จะมาให้คำตอบกับคำถามยอดนิยมเหล่านี้กัน

• ข้อแรก : ต้องใช้กาวอะไรทาหญ้าเทียม?
  ถ้าพื้นที่ของคุณเป็นพื้นปูน หลักๆ เราคงต้องแนะนำให้ใช้ กาวหญ้าเทียม Epoxy 2ส่วน ซึ่งต้องนำมาผสมกันเพื่อให้เคมีเซทตัวถาวร โดยที่ไว้ใจได้เรื่องความคงทน อยู่ยาวติดจนหญ้าพังกาวยังไม่หลุดเลยคิดดู แปลว่าไม่ต้องมาห่วงเรื่องว่ากาวจะล่อนเวลาต้องอยู่กลางแจ้งเป็นเวลาหลายปี แต่ถ้าเกิดว่าคุณแค่อยากทำมุมพัดกอล์ฟประจำบ้านและมีแนวโน้มจะปรับเปลี่ยนถอดถอนขยับขยาย คุณคงไม่อยากให้พื้นบ้านเป็นรอยกาวที่กำจัดออกไปยากๆ ถ้าเป็นกรณีนี้เราคงต้องแนะนำให้คุณลองทำความรู้จักกับกาวยางดู ในงานที่ใช้ชั่วคราวกาวยางเป็นตัวเลือกที่เหมาะสม แล้วถ้าคุณอยากปูหญ้าบนดิน หินคลุกหินเกล็ดล่ะ? ในเคสแบบนี้นอกจากการทากาวเพื่อเชื่อมรอยต่อของหญ้าเทียม เพื่อให้เป็นผืนใหญ่ๆแล้ว คงดูประหลาดถ้าคุณพยายามลงกาวไปที่พื้นดินหรือหิน เราแนะนำให้คุณใช้ตะปูตัวตัวยาวๆ ปักลงไปตามมุมเพื่อยึดไม่ให้หญ้าเปิด หรือถ้ากลังว่าแค่มุมไม่พอ ก็สามารถปักตามขอบหญ้าได้มากเท่าที่ต้องการ
• ข้อสอง : กาวหญ้าเทียม GrassyTurf  ผสมยังไง
  กาวหญ้าเทียมของ GrassyTurf  ใน 1 ชุด (5+1 kg) ใช้ทารอยต่อ หรือขอบหญ้าเทียม ได้ 20-30เมตรโดยประมาน ถ้าคำนวนแล้วว่าใช้หมดทั้งชุด การผสมอาจไม่ใช่เรื่องยาก แต่ถ้าใช้ไม่ถึงล่ะ ถ้าใช้แค่บางส่วนก่อนต้องผสมยังไง ก่อนอื่นต้องเข้าใจการทำงานของทั้งสองส่วนก่อน กาวหญ้าเทียม GrassyTurf ประกอบไปด้วย Hardener (สีดำ) และ เนื้อกาว (สีเขียว) ซึ่งไอ้เจ้า Hardener มีหน้าที่ทำให้ส่วนที่เป็นเนื้อกาวเซ็ตตัวแข็งและยึดเกาะ ซึ่งอัตราส่วนที่เหมาะสมคือ เนื้อกาว 5 ส่วน :  Hardener 1 ส่วน  หรือ กาว 1ถัง(5kg) ต่อ Hardener 1ขวด(1kg) หากแบ่งผสม ก็ใช้กาวครึ่งกระป๋องก็ใส่ Hardener ครึ่งขวด จากนั้นก็คนให้เนื้อกาวผสมเข้ากันให้ทั่ว แต่ถ้ามีพื้นที่ที่น้อยกว่านั้นให้ลองหาแก้วพลาสติดแบบใช้แล้วทิ้งมาช่วยตักกาว ก็จะช่วยให้เรากะอัตราส่วนได้ง่ายขึ้น ซึ่งเมื่อผสมกาวและคนให้เข้ากันแล้วกาวจะเซ็ตตัวแข็งภายในครึ่งชั่วโมง การผสมกาวทากาวขึงควรเป็นขั้นตอนสุดท้ายหลังจากจัดเตรียม-ตัดแต่งหญ้าเสร็จแล้ว ข้อควรระวังคือเมื่อผสม กาวกับ Hardener ไปแล้วจะไม่สามารถเก็บไว้ได้ กล่าวคือผสมเท่าไหร่ต้องใช้ให้หมด เพราะเมื่อกาวเซ็ตตัวแข็งแล้วจะไม่สามารถน้ำมาใช้งานได้อีก ดังนั้นค่อยๆผสมค่อยๆใช้จะได้ไม่ทิ้งเปล่า
• ข้อสาม : ถ้าติดกับพื้นปูนต้องทากาวเยอะขนาดไหน
  สำหรับคำถามนี้เราจะขอพูดถึงส่วนของกาวหญ้าเทียม GrassyTurf  ที่หลายคนไม่ชินกับการใช้งาน เราเคยเจอลูกค้าโทรมาถามว่าถ้าจะทากาวติดหญ้าให้เต็มพื้นที่หญ้าที่มีขนาด 40-50ตรม.ต้องใช้กาวกี่กระป๋อง? เราเชื่อว่ามีหลายคนที่เข้าใจว่าต้องทากาวเต็มพื้นที่เพื่อติดตั้งหญ้า จะพูดว่ามันเป็นเรื่องผิดก็คงไม่ใช่ซะทีเดียว เพียงแต่คงต้องบอกว่าแต่มันเกินความจำเป็น ตัวหญ้าเทียมเองมีน้ำหนักที่ค่อนข้างสูงอยู่แล้วมันจะไม่พลิกหรือกระดกขึ้นมาอย่างแน่นอน ดังนั้นสิ่งที่เราต้องทำเพื่อช่วยมันก็มีแค่การทากาวบริเวณขอบหญ้าก็เพียงพอต่อการช่วยให้มันยึดเกาะและไม่เปิดเมื่อโดนเตะ และปริมาณของกาวที่ใช้ก็ไม่ต้องเยอะมาก แค่ลองกะด้วยสายตาให้ได้เนื้อกาวซักหนึ่งมิลก็เพียงพอสำหรับการใช้งานแล้ว  เพราะฉะนั้นวิธีคำนวณ ปริมาณกาวที่ใช้ จึงคิดจากรอยต่อ และขอบหญ้าที่ต้องติดกาวเป็นหลัก ไม่ใช่พื้นที่ทั้งหมด!!
• ข้อสี่ : การล้างและทำความสะอาด
  ข่าวร้ายคือ เมื่อไหร่ที่กาวผสมและเซทตัวแล้วจะไม่มีวัสดุใดๆทำละลายได้ แปลว่าเลอะมือเมื่อไหร่มันจะอยู่ติดมือเราไปยาวๆเลย สิ่งที่พอทำได้เมื่อกาวเลอะมือคือรีบล้างทำความสะอาดตั้งแต่ก่อนที่มันจะเซ็ตตัวซึ่งเอาจริงๆมันคงไม่ได้สะอาดหมดในทันที แต่ก็คงช่วยผ่อนหนักเป็นเบาได้บ้าง และถ้าบังเอิญคุณทำมันหกใส่พื้นก็สามารถบรรเทาคราบกาวได้ด้วยการปาดและทำความสะอาดในจุดนั้นอย่างรวดเร็ว  และค่อยๆขัดคราบออกจากพื้นผิวก็น่าจะเพียงพอ

ก็จบไปแล้วนะคะกับเรื่องราวของการใช้กาวติดตั้งหญ้าเทียม
สำหรับใครที่ยังมีคำถามสามารถหลังไมค์มาสอบถามได้ที่
www.grassthai.com
Line@ : @grassthai ได้เลยค่ะ
หญ้าเทียม Grassy Turf ยินดีให้คำปรึกษาเสมอค่ะ